กสิกรไทยออกเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด เพื่อธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ให้วงเงินสูงถึง 140 ล้าน

การค้าระหว่างประเทศเบ่งบาน กสิกรไทยโดดหนุน ออกสินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด (SME Super Trade) ให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก มีเงินทุนหมุนเวียน และขยายธุรกิจครบวงจร ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 140 ล้านบาท ตั้งเป้าปล่อยกู้สิ้นปี 5,000 ล้านบาท
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยให้ความสำคัญในการทำการค้าระหว่างประเทศทั้งการนำเข้าและส่งออกมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง 5 เดือนแรก ธุรกิจเอสเอ็มอีมีการนำเข้าเพิ่ม 13% และมีการส่งออกเพิ่มถึง 17.26% ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความต้องการเงินทุนในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการมากขึ้น
ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงออกบริการสินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด (SME Super Trade) ขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศทั้งการส่งออกและนำเข้าสินค้าอย่างครบวงจร ประกอบด้วย
วงเงินที่ใช้ผลิตสินค้าก่อนการส่งออก ได้แก่ วงเงินสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance Credit) วงเงินซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) รวมถึงวงเงินสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจภายในประเทศ ได้แก่ เงินกู้เพื่อการพาณิชย์ (Loan), วงเงินสินเชื่อเบิกเงินเกินบัญชี (O/D), ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N), วงเงินหนังสือค้ำประกัน (L/I)
วงเงินที่ใช้หลังการส่งออก ได้แก่ วงเงินสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศหลังการส่งออก เช่นPacking Credit, Bill Discount สินเชื่อแฟคเตอริ่งกสิกรไทย (K-Factoring) ที่สามารถเปลี่ยน Invoice ลูกหนี้การค้าให้เป็นเงินสดได้ และบริการสินเชื่อเพื่อการขายลดเช็คกสิกรไทย (K-Cheque 2 Cash) ที่สามารถเปลี่ยนเช็คให้เป็นเงินสดได้ในทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจและช่วยบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด เป็นการนำผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจการนำเข้า-ส่งออก และเงินทุนเพื่อดำเนินธุรกิจมารวมไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกมียอดขาย 50-400 ล้านบาทต่อปี โดยธนาคารฯ จะให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 140 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินไปบริหารกิจการ รวมถึงเสริมสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าปล่อยกู้สินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด สิ้นปีนี้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการสินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด ได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา และศูนย์ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ K-BIZ Contact Center โทร. 02-888-8822
นายปกรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า การเปิดเสรีทางการค้าระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะกับกลุ่มประเทศในอาเซียน และคู่ค้าอื่น ๆ จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามแนวโน้มของระบบการค้าใหม่ของโลก ซึ่งจะยิ่งช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรมองหาโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากตลาดส่งออกมีขนาดที่ใหญ่กว่าตลาดในประเทศมาก การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศจะเป็นการขยายธุรกิจ และลดความเสี่ยงทางการตลาดได้มาก ในขณะที่ผู้นำเข้าก็มีโอกาสมองหาแหล่งวัตถุดิบและสินค้าที่มีต้นทุนที่เหมาะสมเพื่อนำมาทำการตลาดในประเทศได้ ดังนั้นการมีความพร้อมด้านเงินทุนและการจัดการจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน และสามารถแข่งขันกับตลาดนานาชาติได้
ที่มา :  http://www.newswit.com/fin/2011-08-09/97bbf07984c7c147538e206a78cc4e15/ (วันที่ 9 สิงหาคม 2554)
สรุป 
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยให้ความสำคัญในการทำการค้าระหว่างประเทศทั้งการนำเข้าและส่งออกมากขึ้น  ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความต้องการเงินทุนในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการมากขึ้น  ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงออกบริการสินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด (SME Super Trade) ขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศทั้งการส่งออกและนำเข้าสินค้าอย่างครบวงจร ประกอบด้วยวงเงินที่ใช้ผลิตสินค้าก่อนการส่งออก  และวงเงินที่ใช้หลังการส่งออก

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น